Super User

Super User

- ระเบียบการเข้าร่วมประมูลสำหรับผู้ขาย -

ค่าบริการมาตรฐาน

  • สามารถนำรถยนต์ของท่านมาติดต่อได้ในวันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 9.00 น. - 17.30 น. 
  • ต้องนำเอกสารทะเบียนรถยนต์ หรือสำเนาทะเบียนรถยนต์หน้าที่แสดงชื่อเจ้าของรถ, รายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ และหน้าเสียภาษีประจำปี มาให้ทางบริษัทฯ ตรวจสอบ
  • ในกรณีที่ผู้ขายมีชื่อ ไม่ตรงตามทะเบียนรถยนต์ ต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขายมาแสดงด้วย
  • ในกรณีรถยนต์คันที่นำเข้าประมูลเป็นทะเบียนต่างจังหวัด ผู้ขายจะต้องแจ้งย้ายให้ หรือแจ้งย้ายเข้ากรุงเทพฯ แล้ว

ค่าบริการมาตรฐาน

  • หากรถยนต์ของท่านประมูลขายไม่ได้ ทางบริษัทฯ ไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใดทั้งสิ้น
  • หากรถยนต์ของท่านประมูลขายได้ คิดค่าดำเนินการ 1.5% ของราคาที่ขายได้
    หากราคาเกินกว่า 500,000.- บาท ส่วนที่เกิน 500,000.- บาท คิดค่าดำเนินการเพียง 1%
  • รถยนต์ที่ประมูลขายได้แล้วต้องจอดทิ้งไว้ที่บริษัทฯ โดยผู้ขายสามารถรับเงินค่ารถยนต์
    หลังจากหักค่าดำเนินการแล้วภายในวันอาทิตย์ เวลา 9.00 น. - 12.00 น. ของสัปดาห์ถัดไป
  • กรณีที่ผู้ซื้อไม่ชำระเงิน 90% ( ส่วนที่เหลือ ) ภายในระยะเวลาที่กำหนดของบริษัทฯ เงินมัดจำ 10%
    ที่จ่ายไว้แล้ว บริษัทฯ จะนำมาหักค่าดำเนินการ ส่วนที่เหลือจะคืนให้แก่ผู้ขาย
    ภายในวันอาทิตย์เวลา 9.00 น. - 12.00 น. ของสัปดาห์ถัดไป
วันพฤหัสบดี, 19 มีนาคม 2558 11:36

ระเบียบการสำหรับผู้ซื้อ

- ระเบียบการเข้าร่วมประมูลสำหรับผู้ซื้อ -

  • สามารถตรวจสอบสภาพรถยนตร์ด้วยตัวท่านเองได้ในวันทำการประมูล (ก่อนเวลาเริ่มประมูล)
  • โปรดตรวจสอบเอกสารที่ติดอยู่หน้ารถ ซึ่งจะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ โดยสังเขป และสำเนาทะเบียนรถยนต์พร้อมทั้งราคาเริ่มต้นประมูล
  • ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลต้องลงทะเบียนมัดจำป้ายประมูลเป็นเงินจำนวน 20,000 บาท พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อรับแผ่นป้ายประมูล ถ้าประมูลไม่ได้ นำใบเสร็จรับเงินพร้อมแผ่นป้ายประมูลมารับเงินคืนหลังจากการประมูลเสร็จสิ้น ถ้าประมูลได้ค่าลงทะเบียนถือเป็นเงินบางส่วนของเงินมัดจำรถ 10%
  • เริ่มทำการประมูลตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยวิธีการยกแผ่นป้ายประมูลและ Online ราคาประมูลปรับขึ้นขั้นต่ำครั้งละ 2,000 บาท
  • หากผู้ชนะการประมูลต้องการเปลี่ยนชื่อหลังการประมูลต้องเสียค่าดำเนินการเปลี่ยนชื่อคันละ 20,000 บาท
  • เมื่อท่านเป็นผู้ประมูลได้ จะต้องวางมัดจำเป็นเงินสด 10% ของราคาที่ประมูลได้ในวันประมูล และอีก 90% ส่วนที่เหลือจะต้องชำระภายใน 3 วันทำการ ก่อนเวลา 12.00 น.
  • เมื่อชำระเงินครบถ้วนแล้วสามารถรับรถยนต์คันที่ประมูลได้ทันที และนัดรับเล่มทะเบียนพร้อมชุดโอนได้ ประมาณ 15 – 30 วัน ( กรณีที่เป็นรถยนต์ของบุคคลทั่วไป ) หรือประมาณ 20 – 30 วัน ( กรณีเป็นรถยนต์ของนิติบุคคล )
  • หมายเหตุ ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมในการโอน, ค่าอากร, ค่าภาษี, และค่าปรับ ตลอดจนค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ ( ถ้ามี ) แต่เพียงผู้เดียว 

ค่าบริการมาตรฐาน

สำหรับผู้ที่ประมูลได้ ผู้ซื้อจะต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กับบริษัทฯ ในการประมูลรถยนต์คันละ 10,700 บาท ( รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว )

วันพฤหัสบดี, 19 มีนาคม 2558 11:33

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

- ข้อกำหนดและเงื่อนไข -

  • บริษัท สากลการประมูล จำกัด เป็นแค่ตัวกลางการขายเท่านั้น และรถทุกคันถือเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ขาย
  • ผู้ประมูลที่ให้ราคาสูงสุดคือผู้ที่มีสิทธิ์ในการซื้อ ในกรณีที่มีการโต้แย้งหรือมีเหตุอันควร
    โฆษกมีอำนาจตัดสินใจนำรถกลับเข้าประมูลใหม่ได้อีกครั้งหนึ่ง
  • ผู้ขายได้มอบสิทธิ์ให้โฆษกมีอำนาจในการขายสินค้าตามรายการ และไม่อนุญาตให้ผู้ใดทำการ
    ยกเลิกการประมูลหลังจากที่ได้ทำการขายไปแล้ว
  • โฆษกสามารถที่จะรอการให้ราคาประมูลจากผู้ซื้อ สามารถที่จะรับหรือไม่รับราคาประมูลใด ๆ ก็ได้
    และมีสิทธิ์ที่จะถอนการประมูลสินค้ารายการใด ๆ ออกจากการขาย
  • บริษัทฯ พยายามที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม สินค้าทั้งหมดขายตามสภาพโดยผู้ขาย
    และบริษัท สากลการประมูล จำกัด หรือโฆษก ขอสงวนสิทธิ์ ที่จะไม่รับผิดชอบในการเรียกร้อง
    สิทธิใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้จะถือว่าผู้ซื้อได้รับทราบและยอมรับหากเกิดความผิดพลาดของรายละเอียด
    จำนวน การรับประกันสินค้า ความคลาดเคลื่อน
  • บริษัทฯ และผู้ขายไม่จำเป็นต้องอธิบายถึงความผิดพลาดและความเสียหายที่เกิดขึ้นของสินค้าในรายการดังกล่าว ผู้ซื้อไม่สามารถคืนเงินหรือปฏิเสธสินค้าในรายการใด ๆ ที่รายละเอียดไม่ตรงตามที่ระบุไว้ในใบรายการสินค้า
  • ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบในการชำระค่าขนส่งสินค้า รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในดารโอนกรรมสิทธิ์
    และเนื่องจากรถยนต์ขายตามสภาพ ผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น รวมถึงค่าภาษีอากรแสตมป์ และค่าโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด
  • ความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นต่อทรัพย์สินและบุคคลระหว่างการขนย้ายสินค้าที่ซื้อได้ เป็นหน้าที่ของผู้ซื้อ
  • ในการลงทะเบียน ผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมการประมูลจะต้องชำระค่ามัดจำป้ายหมายเลขประมูล 20,000 บาท เป็นเงินสด ก่อนทำการประมูล
  • กระประมูลทุกครั้งจะถูกบันทึกโดย VDO ซึ่งใช้เป็นหลักฐานและยืนยันการขาย โดยหลังจากที่โฆษกเคาะราคาขาย โฆษกจะกรอกหมายเลขผู้ซื้อและราคาขายลงในใบขาย ซึ่งผู้ซื้อแต่ละรายสามารถรับผลสรุปการซื้อรถยนตร์ (Sale Contract) ได้ที่ห้องลงทะเบียน เพื่อใช้ยืนยันการซื้อรถยนตร์
วันพฤหัสบดี, 19 มีนาคม 2558 11:22

ติดต่อเรา

ชื่อ :
มือถือ :
อีเมล์ :
รายละเอียด :
 

การดูแลรักษารถมือสองหลังการประมูลรถยนต์

1. ควรนำรถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และน้ำมันเฟืองท้ายใหม่

2. เปลียนไส้กรองน้ำมันเครื่องด้วยก็จะเป็นการดีและปลอดภัยที่สุด 

3. ตรวจสอบอายุการใช้งานสายพานไทมิ่ง โดยอาจจะสังเกตจากสติ๊กเกอร์ที่แปะไว้ตรงฝาครอบสายพานไทมิ่งหน้าเครื่อง จะบันทึกวันเดือนปีและเลขกิโลที่เปลี่ยนสวยพาสครั้งสุดท้ายไว้ แต่ถ้าบางคันไม่มีและผู้ขายรถใหม่ไม่ทราบ ก็ควรเปลี่ยนใหม่จะดีกว่า เพราะถ้าเกิดสายพานไทมิ่งขาดอาจทำให้วาล์ว ฝาสูบ หรือลูกสูบชำรุดได้ จะเสียเงินค่าซ่อมเครื่องมากกว่าเดิมหลายเท่าได้ ซึ่งโดยทั่วๆ ไปแล้วสายพานไทมิ่งหรือสายพานราวลิ้นนี้จะเปลี่ยนกันทุกๆ 50,000 - 100,000 กิโลเมตร แล้วแต่รุ่นของเครื่อง จากนั้นทำการเช็คระบบเบรคว่าผ้าเบรคเหลือมากน้อยแค่ไหน ถ้าเหลือน้อยมากควรเปลี่ยนใหม่

4. ตรวจเช็คตามระยะ เช่น เปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ ระยะทาง 5,000 - 10,000 กม. ขึ้นอยู่กับการใช้งานและชนิดน้ำมันเครื่องที่ใช้ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์และเฟืองท้ายทุกๆ ระยะทาง 20,000 กม. ตรวจเช็คผ้าเบรคทุกๆ 10,000 กม. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรคปีละ 1 ครั้ง เพราะจะทำให้เบรคมีประสิทธิภาพดีอยู่เสมอ จูนอัพเครื่องยนต์ทุกๆ 10,000 กม. ตรวจเช็คช่วงล่างทุกๆ 25,000 กม. และเปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำทุกๆ 3 เดือน

 

สากลกการประมูล ขอแนะนำการเลือกซื้อรถยนต์มือสองในเบื้องต้น

1. ดูกันตั้งแต่จอดอยู่ไกลๆ ซักราวๆ 5 – 3 เมตร ดูรูปทรงของตัวรถทั้งหมด ว่ามีการเอียงหรือไม่ เช่น

  • 1.1 กันชนหน้า ไฟหน้า กระจังหน้า ต้องได้รูปไม่โน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่ง
  • 1.2 ฝากระโปรงหน้า สังเกตร่องระหว่างฝากระโปรงกับแก้ม ต้องเป็นสันตรงกันทั้งสองข้าง ด้านหน้าต้องตรงกันรับกับไฟหน้าและกระจังหน้า
  • 1.3 เสาหลังคา ว่ามีการโน้มเอียงไปหรือไม่ มีความนูนโค้ง หรือเสียรูปไปจากของโรงงาน
  • 1.4 หลังคา ว่ามีการเอียง การยุบ หรือโค้งไม่ได้รูปอย่างไร
  • 1.5 ประตู ร่องระหว่างประตู ระหว่างแก้มหน้า เสาประตู ประตูหลัง จนถึงแก้มหลัง ว่าร่องประตูต่างๆ สังเกตเปรียบเทียบกับรถป้ายแดง สังเกตว่าร่องประตูต่างๆ จะตรงกัน
  • 1.6 กันชนท้าย และฝากระโปรงท้าย ต้องตรงกันไม่เอียงไปทางใดทางหนึ่ง
  • 1.7 ความสูงต่ำ ว่ามีอาการเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งหรือไม่ หรือมีการดัดแปลงช่วงล่างมาอย่างไร



2. สีรถ ดูระยะเริ่มใกล้ ราวๆ 1- 3 เมตร ดูสีรถรอบคัน ว่ามีส่วนไหนที่ทำสีมาแล้วบ้าง สังเกตุสีที่แตกต่าง ความเรียบของผิวรถ ตำหนิต่างๆเกี่ยวกับสี หรือว่าเคยทำสีมาทั้งคัน ถ้าทำสีมาทั้งคันแล้วต้องดุให้ดีนะค่ะ ต้องสันนิฐานว่าทำสีทั้งคันเพราะอะไร เจ้าของเดิมเบื่อไม่ชอบสีเดิม สีซีดแล้วไม่สวย เกิดอุบัติเหตุทุกที่ หรือรุนแรงจนอู่ต้องตัดสินใจทำสีใหม่ทั้งคัน

3. เคาะฟังเสียง โดยการแอบไล่เคาะรถบางส่วนหรือรอบคันเพื่อฟังเสียง รถที่ทำสีแล้วมักจะมีการโป๊ว การโป๊วหนาย่อมหมายถึงอุบัติเหตุมาก เราสามารถเคาะดูเสียงที่แตกต่างกันได้ โดยการไล่เคาะฟังเสียงไปทั้งๆ คัน

4. คานหน้ารถ ต้องเปิดฝากระโปรงหน้ารถดูว่า คานหน้าที่ยึดหม้อน้ำว่ามีการทำสีมาหรือไม่ มีการโป๊วสี หรือซ่อมมาอย่างไร สังเกตจากรูน็อตต่างๆ ต้องยังกลม และหมายเลขหน้ารถต้องยังชัดเจน หรือแผ่นเพทต้องไม่เคยชำรุด ทั้งคานบนล่างต้องได้รูป

5. ภายในห้องเครื่อง ว่ามีการทำสีมาแล้วหรื่อไม่ สังเกตรูปทรงต่างๆ ต้องจับผิดทุกจุด ทั้งรูน็อตต่างๆ รูปทรงต่างๆว่าต่างจากของโรงงานมาอย่างไร

6. ภายในฝากระโปรงท้าย เปิดดูว่าคานยึดฝากระโปรงท้าย เบ้ายึดไฟท้าย ห้องเก็บยางอะไหล่ ว่ามีการทำสี เคาะ โป๊ว หรือ ตัดเชื่อมมาหรือไม่ ควรก้มดูด้านล่าง สังเกตหูลากรถ ว่าต่างจากของเดิมมาอย่างไร

7. ใต้ท้องรถ ส่วนใหญ่แล้วมักจะมองข้ามกัน แต่ใต้ท้องรถบ่งบอกถึง การใช้งานแบบทุระกันดาร การตัดต่อตัวถัง การเสียรูปของตัวรถ ความผุของตัวถังที่มักเริ่มจากพื้นรถเป็นอันดับแรก สังเกตเฟรมใต้ท้อง ความบุบครูด สนิมที่เริ่มผุ หรือการแยกกันแล้วของตัวถังรถ

8. ภายในรถ ดูรถมาตั้งนานได้เปิดดูภายในกับเขาเสียที ไม่ใช่จะซื้อรถต้องเปิดดูภายในเป็นอันดับแรก มาดูว่าต้องดูอะไรบ้าง

  • 8.1 เบาะรถยนต์ ดูว่าเก่าขาด หรือยุบตัวทางด้านไหน หรือเปลียนใหม่มาแล้ว เปลี่ยนเพราะอะไร ใช้งานหนักจนเบาะชำรุดมาก หรือเบาะเดิมไม่สวยถึงเปลี่ยนใหม่
  • 8.2 คอนโซลหน้า ว่าเป็นของเดิมจากโรงงาน ไม่เสียรูป มีการแตกที่ผิดปกติ หรือเปลี่ยนใหม่เพราะอะไร
  • 8.3 หน้าปัด เป็นการดูว่าหน้าปัดยังเป็นของเดิมตรงรุ่น ดูระยะกิโลการใช้งาน แต่การเชื่อถือระยะกิโลเป็นหลัก ก็ยังเป็นการผิด เพราะสามารถปรับแต่งกันได้ หรือรถใช้น้อยแต่เครื่องพัง วิ่งลุยน้ำทุกวัน หรือใช้งานหนัก สู้เลือกรถใช้งานมาก แต่ขับถนอมดีกว่า
  • 8.4 พวงมาลัย และ หัวเกียร สังเกตพวงมาลัยว่า มีการยุบอย่างไร พวงมาลัยและหัวเกียรที่ผ่านการใช้งานหนัก จะมีการสึกหรอสูง จนเป็นมัน เป็นรอยแตก สังเกตลายที่แตกต่างบนพวงมาลัย
  • 8.5 ผ้าหลังคารถ ว่ายังเป็นของเดิมมาจากโรงงาน มีการประกอบยึดใหม่ หรือเปลี่ยนใหม่เพราะอะไร

9. เครื่องยนต์ ถือเป็นหัวใจหลักในการขับเคลื่อน สังเกตหาการซ่อมแซม สตารท์เครื่องฝังเสียง เปิดฝาเติมน้ำมันเครื่อง แล้วสังเกตไอน้ำมันเครื่อง เสียงท่อไอเสีย ควันจากท่อ หรือถ้ามีบุ๊กเซอร์วิสติดมา จะเป็นการดีครับ รองเปิดดูประวัติการซ่อม และดูด้วยว่าต้องต้องตรงกับทะเบียนรถ และเลขไมล์ในตัวรถ

10. ช่วงล่าง และล้อยาง รองหมุนโยกพวงมาลัยแรงๆ แต่การรองขับขี่เป็นการดีที่สุด ทดสอบการเกาะถนนทางตรงและทางโค้ง ศูนย์ของรถต้องไม่กินซ้ายกินขวาต้องรองเลี้ยวกลับรถแบบสุดๆ ทั้งซ้ายและขวา การคืนพวงมาลัย ขึ้นเนินลูกระนาด หรือรองบนทางขรุขระ ทุกรูปแบบที่สามารถจะทดสอบได้

วันอาทิตย์, 22 กุมภาพันธ์ 2558 03:13

ระเบียบการประมูล

- ระเบียบการเข้าร่วมประมูลสำหรับผู้ซื้อ -

  • สามารถตรวจสอบสภาพรถยนตร์ด้วยตัวท่านเองได้ตั้งแต่ วันเสาร์และวันอาทิตย์ ก่อนเวลาทำการประมูล
  • โปรดตรวจสอบเอกสารที่ติดอยู่หน้ารถ ซึ่งจะแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถ โดยสังเขป และสำเนาทะเบียนรถยนต์พร้อมทั้งราคาเริ่มต้นประมูล
  • ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลต้องลงทะเบียนมัดจำป้ายประมูลเป็นเงินสด จำนวน 20,000.- บาท พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนเพื่อรับแผ่นป้ายประมูล ถ้าประมูลไม่ได้ นำใบเสร็จรับเงินพร้อมแผ่นป้ายประมูลมารับเงินคืนหลังจากการประมูลเสร็จสิ้น ถ้าประมูลได้ค่าลงทะเบียนถือเป็นเงินบางส่วนของเงินมัดจำรถ 10%
  • เริ่มทำการประมูลตั้งแต่เวลา 12.00 น. ( เที่ยงตรง ) โดยวิธีการยกแผ่นป้ายประมูล ราคาประมูลปรับขึ้นขั้นต่ำครั้งละ 2,000.- บาท
  • หากผู้ชนะการประมูลต้องการเปลี่ยนชื่อหลังการประมูลต้องเสียค่าดำเนินการเปลี่ยนชื่อคันละ 20,000 บาท
  • เมื่อท่านเป็นผู้ประมูลได้ จะต้องวางมัดจำเป็นเงินสด 10% ของราคาที่ประมูลได้ และอีก 90% ส่วนที่เหลือจะต้องชำระภายในวันพุธ (หรือ 3 วันทำการ) ก่อนเวลา 12.00 น.
  • เมื่อชำระเงินครบถ้วนแล้วสามารถรับรถยนต์คันที่ประมูลได้ทันที และนัดรับเล่มทะเบียนพร้อมชุดโอนได้ ประมาณ 15 – 30 วัน ( กรณีที่เป็นรถยนต์ของบุคคลทั่วไป ) หรือประมาณ 20 – 30 วัน ( กรณีเป็นรถยนต์ของนิติบุคคล )
  • หมายเหตุ ผู้ซื้อเป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมในการโอน, ค่าอากร, ค่าภาษี, และค่าปรับ ตลอดจนค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ ( ถ้ามี ) แต่เพียงผู้เดียว ยกเว้นกรณีรถยนต์ของบุคคลทั่วไป ซึ่งผู้ขายจะรับผิดชอบค่าภาษี ประจำปี ส่วนที่ขาดและค่าแจ้งย้ายในกรณีที่แจ้งย้ายให้

ค่าบริการมาตรฐาน

สำหรับผู้ที่ประมุลได้ ผู้ซื้อจะต้องจ่ายค่าดำเนินการให้กับบริษัทฯ ในการประมุลรถยนต์คันละ 10,700.- บาท ( รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว )

วันอังคาร, 23 กันยายน 2557 20:20

coming soon

 

coming soon

วันอังคาร, 23 กันยายน 2557 20:20

แผนผังเว็บไซต์

coming soon

วันอังคาร, 23 กันยายน 2557 20:19

ติดต่อเรา

199 หมู่ 7 ตำบลบางคูวัด 
อำเภอเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี 12000

Tel : 02-832-4500 Fax : 02-8324555

ชื่อ :
มือถือ :
อีเมล์ :
รายละเอียด :
 

รอบการประมูล

ครั้งต่อไป

สำนักงานใหญ่ (เลน 1)

1 พฤษภาคม 2567

11.00

ฝากหารถ
bannerdownload
bannerdownload
ประมูลรถยนต์ สากลการประมูล